Smart Meter กับ Smart Power Sensor ต่างกันอย่างไร

Smart Meter และ Smart Power Sensor ต่างกันยังไง

Smart Meter และ Smart Power Sensor ต่างกันยังไง?

หลายคนอาจจะสงสัยว่า Smart Meter และ Smart Power Sensor คืออะไร และต่างกันยังไงในระบบโซลาร์เซลล์ของคุณ? อุปกรณ์ทั้งสองตัวนี้มีหน้าที่สำคัญในการจัดการไฟฟ้าในบ้านคุณ บทความนี้จะแสดงให้เห็นถึงความแตกต่างกันของหน้าที่และจุดประสงค์ของ 2 อุปกรณ์นี้

หน้าที่ของ Smart Meter

Smart Meter (สมาร์ทมิเตอร์) คือ อุปกรณ์ที่คอยวัดและบันทึกการใช้พลังงานไฟฟ้าทั้งหมดในบ้านคุณ

  • วัดทุกอย่าง : โดยจะวัดว่าโซลาร์เซลล์ของคุณผลิตไฟได้เท่าไหร่, คุณใช้ไฟไปเท่าไหร่ (ทั้งจากโซลาร์เซลล์และการไฟฟ้า), และมีไฟเหลือส่งคืนการไฟฟ้าเท่าไหร่
  • ดูข้อมูลได้แบบเรียลไทม์ : ส่งข้อมูลให้คุณดูได้ตลอดเวลาผ่านแอปพลิเคชันหรือระบบมอนิเตอร์
  • สำคัญกับการคิดค่าไฟ : ข้อมูลจาก Smart Meter ใช้ในการคำนวณค่าไฟฟ้าที่คุณต้องจ่าย หรือจำนวนเงินที่คุณจะได้คืนจากการขายไฟส่วนเกิน

เปรียบเทียบง่ายๆ: Smart Meter คือ สมุดบัญชี ที่บันทึกรายรับ-รายจ่ายไฟฟ้าในบ้านคุณอย่างละเอียด

หน้าที่ของ Smart Power Sensor

Smart Power Sensor (สมาร์ทพาวเวอร์เซ็นเซอร์) คือ อุปกรณ์ที่เฝ้าระวังที่คอยตรวจจับและควบคุมการไหลของไฟฟ้า โดยเฉพาะเรื่องการป้องกันไฟย้อน

  • การป้องกันไฟย้อน (Zero Export Control) : นี่คือหัวใจสำคัญของ Smart Power Sensor ซึ่งจะคอยตรวจจับอยู่ตลอดเวลาว่ามีไฟจากโซลาร์เซลล์ไหลเกินไปเข้าระบบการไฟฟ้าหรือไม่ ถ้าตรวจเจอ มันจะสั่งให้อินเวอร์เตอร์ลดการผลิตไฟลงทันที เพื่อไม่ให้มีไฟไหลย้อนกลับไป
  • ควบคุมการผลิตไฟ : ช่วยให้อินเวอร์เตอร์ผลิตไฟให้พอดีกับที่บ้านคุณใช้ เพื่อไม่ให้เกิดไฟเกิน
  • ทำงานร่วมกับ CT : มักจะใช้ร่วมกับ Current Transformer (CT) ที่นำไปคล้องสายไฟหลักเพื่อวัดกระแสไฟแบบเรียลไทม์

เปรียบเทียบง่ายๆ: Smart Power Sensor คือ สวิตช์อัตโนมัติ ที่คอยกันไม่ให้ไฟจากโซลาร์เซลล์ของคุณไหลย้อนกลับไปทำอันตรายระบบของการไฟฟ้า

สรุปง่ายๆ ว่าต่างกันยังไง?

Smart Meter Solar Cell ทำหน้าที่ “คอยวัดและบันทึกปริมาณการผลิตและการใช้ไฟฟ้าทั้งหมดในบ้าน รวมถึงการไหลเข้าออกจากการไฟฟ้า” เพื่อช่วยคำนวณค่าไฟและติดตามประสิทธิภาพระบบ ส่วน Smart Power Sensor Solar Cell ทำหน้าที่ “ควบคุมและป้องกัน ไม่ให้ไฟฟ้าจากโซลาร์เซลล์ไหลย้อนกลับเข้าระบบการไฟฟ้า (Zero Export)” ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญด้านความปลอดภัยและการปฏิบัติตามกฎหมาย ทำให้มั่นใจได้ว่าระบบโซลาร์เซลล์ของคุณทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัย